กว่างโจว
กว่างโจว 广州市 แคนตัน, กวางเจา | |
---|---|
จากเข็มนาฬิกาจากภาพบนไปยังภาพกลาง: ทิวทัศน์ของกว่างโจวและแม่น้ำเพิร์ล (แม่น้ำจู), อนุสาวรีย์แพะห้าตัว, หอรำลึกซุน ยัตเซ็น, เจดีย์เจิ้นไห่, แคนตันทาวเวอร์, และโบสถ์พระหฤทัย | |
สมญา: นครแกะ, นครแห่งดอกไม้ | |
ที่ตั้งของนครกว่างโจวในมณฑลกวางตุ้ง | |
พิกัด (ศูนย์ราชการมณฑลกวางตุ้ง): 23°07′55″N 113°15′58″E / 23.132°N 113.266°E | |
ประเทศ | สาธารณรัฐประชาชนจีน |
มณฑล | กวางตุ้ง |
ศูนย์กลางการปกครอง | เขตเยว่ซิ่ว |
การปกครอง | |
• ประเภท | นครกึ่งมณฑล |
• เลขาธิการพรรค | จาง ชั่วฝู่ (张硕辅) |
• นายกเทศมนตรี | เวิน กั๋วฮุย (温国辉) |
พื้นที่[1] | |
• นครระดับจังหวัดและนครระดับกิ่งมณฑล | 7,434.4 ตร.กม. (2,870.4 ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 3,843.43 ตร.กม. (1,483.96 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 21 เมตร (68 ฟุต) |
ประชากร (ปลาย ค.ศ. 2018)[2] | |
• นครระดับจังหวัดและนครระดับกิ่งมณฑล | 14,904,400 คน |
• ความหนาแน่น | 2,000 คน/ตร.กม. (5,200 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง[3] | 11,547,491 คน |
• รวมปริมณฑล[4] | 25,000,000 คน |
เดมะนิม | ชาวกวางตุ้ง, Cantonese |
เขตเวลา | UTC+8 (เวลามาตรฐานจีน) |
รหัสไปรษณีย์ | 510000 |
รหัสพื้นที่ | (0)20 |
รหัส ISO 3166 | CN-GD-01 |
GDP (ราคาตลาด)[5] | ค.ศ. 2018 |
- ทั้งหมด | ¥2.3 ล้านล้าน $347 พันล้าน |
- ต่อหัว | ¥158,638 $23,963 |
- เติบโต | 6.5% |
ป้ายทะเบียนรถ | 粤A |
ดอกไม้ประจำนคร | งิ้ว |
นกประจำนคร | นกกะรางเสียงเพราะ |
ภาษา | ภาษากวางตุ้งมาตรฐาน, ภาษาจีนกลาง |
เว็บไซต์ | english |
กว่างโจว | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
"กว่างโจว" เขียนด้วยอักษรจีนตัวย่อ (บน) และอักษรจีนตัวเต็ม (ล่าง) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 广州 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 廣州 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ไปรษณีย์ | Canton Kwangchow | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | "จังหวัด/รัฐที่กว้างขวาง" | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อย่อ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 穗 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
กว่างโจว[6] กวางโจว หรือ กวางเจา[7] (จีนตัวเต็ม: 廣州, จีนตัวย่อ: 广州 Guǎngzhōu หรือ Gwong2 zau1 ในภาษาจีนกวางตุ้ง) เป็นเมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง กว่างโจวเป็นเมืองใหญ่สุดทางภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นมณฑลซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งของจีน คือ เซินเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา นอกจากนั้นเมืองกว่างโจวยังมีสำเนียงเฉพาะถิ่นที่ถือว่าเป็นมาตรฐานของ ฮ่องกง และมาเก๊า เรียกว่า สำเนียงกว่างโจวอีกด้วย
เมืองกว่างโจวตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเลในครั้งอดีต และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขาย
กว่างโจวแม้จะเป็นศูนย์กลางในการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน แต่กว่างโจวยังมีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในรูปสถานที่สำคัญต่าง ๆ ปัจจุบันกว่างโจวมีบทบาทเป็นเมืองในเขตเศรษฐกิจการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในภาคใต้ของจีน และยังได้รับสถานะเป็นหนึ่งในสามเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของจีน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีผลผลิตโดยรวมมากที่สุดด้วย นอกจากนั้นยังมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ทันสมัย มีระบบรถไฟใต้ดินครอบคลุมเมืองชั้นในทั้งหมด รวมทั้งด้านภูมิอากาศ อาหาร การดำรงชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ก็มีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย
กว่างโจวมีภาพลักษณ์ค่อนข้างแตกต่างจากเมืองทางเหนือ ซึ่งบรรยากาศที่เต็มไปด้วย "ราชการและเป็นทางการ" แต่ในกว่างโจวจะรู้สึกและรับรู้ได้ถึง "การค้าและความวุ่นวาย"
กว่างโจว เคยใช้เป็นสถานที่หลักที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ 2010 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2553
ประวัติศาสตร์
[แก้]ประวัติศาสตร์ของกว่างโจวมีมายาวนาน ก่อนราชวงศ์ฉิน มีชื่อเรียกว่า พานยวี๋ เมื่อถึงปี พ.ศ. 769 (ค.ศ. 226) จึงเริ่มเรียกว่า กว่างโจว ที่นี่มีแม่น้ำจู ไหลผ่านกลางเมือง จึงมีการจราจรทางน้ำที่สะดวกยิ่ง ตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ฮั่น เป็นต้นมา มีเรือจากกว่างโจว เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ จนถึงราชวงศ์ถัง กว่างโจวได้กลายเป็น เมืองท่าที่มีชื่อเสียงของโลก มีการค้ากับต่างประเทศอย่างมั่งคั่งเป็นพิเศษ ผลิตภัณฑ์จากทางภาคใต้ของ ประเทศจีน เช่น ผ้าไหม ใบชา เป็นต้น ได้กลายเป็นสินค้าส่งออกจากที่นี่ เรือสินค้าของต่างชาติก็มาที่นี่เป็น จำนวนมากเช่นกัน
มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ภายในตัวเมืองมีวัดชื่อ กวงเซี่ยวซื่อ เป็นโบราณสถาน ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง ในสมัยราชวงศ์ ฮั่น เคยเป็นที่ประทับของ ฮ่องเต้ หนานเยว่ แห่งยุคฮั่นตะวันตก จนมา ถึงยุคฮั่นตะวันออก จึงได้กลายเป็นวัด ยังมีวัดอีกแห่งหนึ่งชื่อ ลิ่วหรงซื่อ ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 1080 (ค.ศ. 537) เดิมมิใช่ชื่อนี้ จนถึงสมัยราชวงศ์ ซ่ง (ราชวงศ์ซ้อง) นักวรรณคดีผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อ ซู ซื่อ ได้มาเที่ยวที่นี่ เห็นว่าภายในวัดมีต้น หรง อยู่หกต้น จึงหยิบ พู่กันขึ้นมาเขียนตัวอักษร 2 ตัว ว่า ลิ่ว หรง (ลิ่ว = หก ; หรง = พืชจำพวกต้นไทร) จนถึงราชวงศ์หมิงประชาชนจึงเรียก วัดนี้ว่า ลิ่ว หรง ซื่อ
ภูมิศาสตร์
[แก้]ทางเหนือของกว่างโจวมี สวนสาธารณะ ยฺเว่ซิ่ว ที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามยิ่ง เนื้อที่ประมาณ 92 ตร.กม. ภายในสวนมีบริเวณแห่งความงามหลายแห่ง เช่น ภูเขา ยฺเว่ซิ่วซาน ภูเขา อู่หยางซาน ตึก เจิ้น ไห่ โหลว เป็นต้น บนยอดเขายฺเว่ซิ่วซานมีอนุสรณ์สถานเป็นแท่งหินตั้งแท่งหนึ่ง ที่เชิงเขามีอนุสรณ์สถานที่เป็นโถงใหญ่โถงหนึ่ง ทั้งสองแห่งเป็นอนุสรณ์สถานของ ดร. ซุน จง ซาน (ซุนยัดเซ็น) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) ปัจจุบันประชาชนมักจะใช้โถงใหญ่เป็นที่จัดการประชุมหรือจัดการแสดงต่าง ๆ
ชานเมืองด้านเหนือของกว่างโจว มีภูเขาสูง 382 เมตร ชื่อ ไป๋ ยฺหวิน ซาน เป็นชื่อตามลักษณะที่มักจะมีเมฆสีขาวปกคลุมที่ยอดเขาเสมอ (ไป๋ = สีขาว ; ยฺหวิน = เมฆ) บนภูเขามีต้นไม้สูง รวมทั้งพืชพันธุ์ดอกไม้และต้นหญ้า มีน้ำใส หน้าผาสีแดง งดงามยิ่งนัก ได้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ทั้งสวนสาธารณะและโรงแรมที่พัก
ภูมิอากาศ
[แก้]แม้จะตั้งอยู่ทางทิศใต้ใกล้เคียงเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ แต่กว่างโจวก็มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น (เคิพเพิน Cfa/Cwa) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมเอเชียตะวันออก ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูง ความชื้นสูง และมีดัชนีความร้อนสูง ฤดูหนาวอากาศค่อนข้างเย็นและแห้ง กว่างโจวมีฤดูมรสุมที่ยาวนานซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนอยู่ระหว่าง 13.9 °C (57.0 °F) ในเดือนมกราคม ถึง 28.9 °C (84.0 °F) ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 22.6 °C (72.7 °F)[8] ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม มีอากาศไม่รุนแรง เย็นสบาย และมีลมจัด เป็นช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ดีที่สุด[9] ความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 68 ในขณะที่ปริมาณน้ำฝนรายปีในเขตปริมณฑลมีมากกว่า 1,700 มม. (67 นิ้ว)[8] ปริมาณร้อยละของแสงแดดต่อเดือนตั้งแต่ร้อยละ 17 ในเดือนมีนาคมและเมษายน ไปจนถึงร้อยละ 52 ในเดือนพฤศจิกายน เมืองนี้ได้รับแดดจ้า 1,628 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งน้อยกว่าเชินเจิ้นและฮ่องกงที่อยู่ใกล้เคียงมาก ช่วงของอุณหภูมิต่ำสุด-สูงสุดอยู่ระหว่าง 0 °C (32 °F) ถึง 39.1 °C (102.4 °F)[10] หิมะตกครั้งสุดท้ายที่บันทึกไว้ในเมืองคือเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นเวลา 87 ปีหลังจากการบันทึกสองครั้งล่าสุด[11]
ภูมิอากาศของกว่างโจวถูกจัดว่าดีมาก ฤดูหนาวไม่หนาวจัด ฤดูร้อนไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งสี่ฤดูตลอดปีจะมีดอกไม้บาน ผู้คนจึงมักเรียกกว่างโจวว่า เมืองดอกไม้ กว่างโจวมีภูมิทัศน์ที่งามตามีจุดชมวิวมากมาย
ข้อมูลภูมิอากาศของกว่างโจว (ปกติ ค.ศ. 1971–2000, สุดขีด ค.ศ. 1961–2000) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 27.2 (81) |
28.6 (83.5) |
32.1 (89.8) |
32.4 (90.3) |
36.2 (97.2) |
36.6 (97.9) |
39.1 (102.4) |
38.0 (100.4) |
37.6 (99.7) |
34.8 (94.6) |
32.5 (90.5) |
29.6 (85.3) |
39.1 (102.4) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 18.3 (64.9) |
18.5 (65.3) |
21.6 (70.9) |
25.7 (78.3) |
29.3 (84.7) |
31.5 (88.7) |
32.8 (91) |
32.7 (90.9) |
31.5 (88.7) |
28.8 (83.8) |
24.5 (76.1) |
20.6 (69.1) |
26.3 (79.4) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 13.9 (57) |
15.2 (59.4) |
18.1 (64.6) |
22.4 (72.3) |
25.8 (78.4) |
27.8 (82) |
28.9 (84) |
28.8 (83.8) |
27.5 (81.5) |
24.7 (76.5) |
20.1 (68.2) |
15.5 (59.9) |
22.4 (72.3) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 10.3 (50.5) |
11.7 (53.1) |
15.2 (59.4) |
19.5 (67.1) |
22.7 (72.9) |
24.8 (76.6) |
25.5 (77.9) |
25.4 (77.7) |
24.0 (75.2) |
20.8 (69.4) |
15.9 (60.6) |
11.5 (52.7) |
18.9 (66.1) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 0.1 (32.2) |
1.3 (34.3) |
3.2 (37.8) |
7.7 (45.9) |
14.6 (58.3) |
18.8 (65.8) |
21.6 (70.9) |
20.9 (69.6) |
15.5 (59.9) |
9.5 (49.1) |
4.9 (40.8) |
0.0 (32) |
0.0 (32) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 40.9 (1.61) |
69.4 (2.732) |
84.7 (3.335) |
201.2 (7.921) |
283.7 (11.169) |
276.2 (10.874) |
232.5 (9.154) |
227.0 (8.937) |
166.2 (6.543) |
87.3 (3.437) |
35.4 (1.394) |
31.6 (1.244) |
1,736.1 (68.35) |
ความชื้นร้อยละ | 72 | 78 | 82 | 84 | 84 | 84 | 82 | 82 | 78 | 72 | 66 | 66 | 77.5 |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) | 7.5 | 11.2 | 15.0 | 16.3 | 18.3 | 18.2 | 15.9 | 16.8 | 12.5 | 7.1 | 5.5 | 4.9 | 149.2 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 118.5 | 71.6 | 62.4 | 65.1 | 104.0 | 140.2 | 202.0 | 173.5 | 170.2 | 181.8 | 172.7 | 166.0 | 1,628 |
แหล่งที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยาจีน,[12] all-time extreme temperature[10] |
เศรษฐกิจ
[แก้]กว่างโจวได้รับการขนานนามว่าเป็นประตูด้านใต้ของประเทศจีน และเป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจู ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจชั้นนำของจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี 2560 จีดีพีของกว่างโจวอยู่ที่ 2,150 ล้านหยวน (318 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จีดีพีต่อหัวอยู่ที่ 150,678 หยวน (22,317 ดอลลาร์สหรัฐ) [13] ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประเทศจีน เนื่องจากการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วจึงทำให้เคยเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน แต่ปัจจุบันเมื่อการพัฒนาเมืองสีเขียวจึงกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในประเทศจีน
งานเสดงสินค้าที่สำคัญสำหรับเมืองคือ งาน Canton Fair ชื่ออย่างเป็นทางการคือ "งานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกของจีน" จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนเมษายนและตุลาคมโดยกระทรวงการค้า เปิดตัวในปี 2500 เป็นงานแสดงสินค้าที่มีประวัติยาวนานที่สุดในประเทศจีน [14] งานแสดงสินค้าได้ย้ายไปที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติกวางโจวแห่งใหม่ (广州国际会展中心) ในเขตผาโจว ตั้งแต่งานครั้งที่ 104 เป็นต้นไป
-
แคนตันแฟร์ครั้งแรก ปี 2500
-
สถานที่แสดงงานแคนตันแฟร์ก่อนการย้าย ณ เขตยฺเว่ซิ่ว
-
ภายในอาคารแสดงงานแคนตันแฟร์ปัจจุบัน ณ เขตผาโจว
ภาพประกอบอื่น
[แก้]-
นครกว่างโจว
-
ตึกซิติคพลาซา ตึกที่สูงที่สุดของเมืองกว่างโจว ก่อนปี พ.ศ. 2553
-
แม่น้ำไข่มุกในเมืองกว่างโจว
-
ตึกกว่างโจว
อินเตอร์เนชัลนัลไฟแนนซ์เซ็นเตอร์ -
ตึกแฝดแห่งนครกว่างโจว
-
อาคารที่สูงที่สุดของเมืองกว่างโจวในปัจจุบัน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 土地面积、人口密度(2008年). Statistics Bureau of Guangzhou. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-23. สืบค้นเมื่อ 2010-02-08.
- ↑ 广州常住人口去年末超1490万 (ภาษาChinese (China)). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-16. สืบค้นเมื่อ 2019-03-16.
- ↑ 统计年鉴2014 [Statistical Yearbook 2014] (ภาษาจีน). Statistics Bureau of Guangzhou. 7 April 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 December 2009. สืบค้นเมื่อ 1 May 2015.
- ↑ OECD Urban Policy Reviews: China 2015, OECD READ edition. OECD iLibrary. OECD Urban Policy Reviews (ภาษาอังกฤษ). OECD. 18 April 2015. p. 37. doi:10.1787/9789264230040-en. ISBN 9789264230033. ISSN 2306-9341. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 March 2017.Linked from the OECD here [1] เก็บถาวร 2017-12-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ 深圳GDP超广州,不过广州也不用慌 [The 2016 Guangzhou Municipal National Economic and Social Development Statistics Bulletin] (ภาษาจีนตัวย่อ). Baijiahao.baidu.com. January 15, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-05. สืบค้นเมื่อ 2017-11-11.
- ↑ "MapMachine". Maps.nationalgeographic.com. สืบค้นเมื่อ 2010-05-06.
- ↑ "Guangzhou (China)". Encyclopædia Britannica. Accessed 12 September 2010.
- ↑ 8.0 8.1 "Tourism Administration of Guangzhou Municipality". visitgz.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2010. สืบค้นเมื่อ 2010-03-21.
- ↑ "Travel China Guide: Fascinating Guangzhou". Blogspot. 12 August 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 July 2011. สืบค้นเมื่อ 21 August 2008.
- ↑ 10.0 10.1 "Extreme Temperatures Around the World". สืบค้นเมื่อ 2010-12-01.
- ↑ 广州全城多处降雪 广州塔顶现厚厚积雪. southcn.com. 24 January 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2016. สืบค้นเมื่อ 24 January 2016.
- ↑ 中国地面国际交换站气候标准值月值数据集(1971-2000年) (ภาษาจีน). China Meteorological Administration. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-21. สืบค้นเมื่อ August 12, 2016.
- ↑ 广东统计年鉴2010. Gdstats.gov.cn. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-06-02.
- ↑ "Canton Fair Online". 19 January 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 January 2016. สืบค้นเมื่อ 19 January 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Guangzhou International เก็บถาวร 2010-11-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเทศบาลนครกว่างโจว
- Guangzhou, China Network เก็บถาวร 2008-01-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Guangzhou Municipal Bureau of Tourism เก็บถาวร 2010-11-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- คู่มือการท่องเที่ยว Guangzhou จากวิกิท่องเที่ยว (ในภาษาอังกฤษ)