เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งการ์เทอร์ | |
---|---|
อักษรย่อ | KG |
ประเภท | Knight/Lady Royal Knight/Lady Stranger Knight/Lady |
วันสถาปนา | ค.ศ. 1348 |
ประเทศ | สหราชอาณาจักร |
จำนวนสำรับ | 24 สำรับ |
ผู้สมควรได้รับ | ตามพระราชอัธยาศัย |
สถานะ | อยู่ในสมัยพระราชทาน |
ผู้สถาปนา | สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ |
ประธาน | พระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักร |
สถิติการมอบ | |
ทั้งหมด | 1,031 ราย |
ลำดับเกียรติ | |
สูงกว่า | กางเขนราชอิสริยาภรณ์จอร์จ |
รองมา | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทริสเติล |
แพรแถบเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งการ์เทอร์ (อังกฤษ: The Most Noble Order of the Garter) เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสหราชอาณาจักร ซึ่งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1348 และถือว่าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอัศวินที่มีศักดิ์สูงสุดในประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักร โดยใช้ตราสัญลักษณ์ และตราอาร์มของนักบุญจอร์จ นักบุญองค์อุปถัมภ์ประเทศอังกฤษ ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง]
การพระราชทานนั้นจะขึ้นอยู่พระบรมราชวินิจฉัย สมาชิกของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นั้นจะถูกจำกัดอยู่เพียงพระมหากษัตริย์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และสมาชิกประเภท (Companion Orders) อีกไม่เกิน 24 สำรับ ซึ่งยังไม่รวมถึงสมาชิกพิเศษ (Supernumerary members) ซึ่งไม่รวมใน 24 สำรับดังกล่าว โดยพระราชทานให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ พระราชวงศ์ต่างประเทศ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีความดีความชอบ
พิธีพระราชทานนั้นจะกำหนดขึ้นในวันนักบุญจอร์จ (St. George's Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 23 เมษายน เนื่องจากองค์อุปถัมป์ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้คือนักบุญจอร์จ[1] โดยมีเกณฑ์พระราชทานให้เฉพาะคริสต์ศาสนิกชนเท่านั้น[ต้องการอ้างอิง]
ประวัติ
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1891 โดยสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ คำว่า "Garter" แปลว่า "สายรัดถุงเท้าของสตรี" โดยในสมัยนั้น ยังอยู่ในยุคอัศวินยุคกลางที่ยังยกย่องสตรีอยู่ ซึ่งสูงศักดิ์พอที่จะใช้เป็นชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ โดยมีภาษิตที่ว่า "คนที่คิดร้ายจะต้องได้บาป" (Honi soit qui mal y pense)[ต้องการอ้างอิง]
การพระราชทาน
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ สามารถพระราชทานได้ ตามพระราชอัธยาศัย[ต้องการอ้างอิง] โดยมี 24 สำรับด้วยกัน และไม่มีการจัดสร้างเพิ่ม[ต้องการอ้างอิง]
องค์ประกอบ
[แก้]สมาชิกสามัญ
[แก้]จำนวนผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์นั้นจำกัดเพียงแค่พระมหากษัตริย์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และสำหรับผู้ได้รับพระราชทานอื่นๆ อีกไม่เกิน 24 สำรับ ซึ่งไม่รวมถึงสมาชิกประเภทพิเศษอีกจำนวนมาก โดยการพระราชทานนั้นขึ้นอยู่กับพระราชอัธยาศัย[2] โดยการออกพระนามสำหรับพระมหากษัตริย์นั้นจะเรียกว่า "Sovereign of the Garter" และเจ้าชายแห่งเวลส์เป็น "Royal Knight Companion of the Garter"[3]
ผู้ได้รับพระราชทานที่เป็นบุรุษจะเรียกว่า "Knights Companion" และสตรี "Ladies Companion" ในอดีต ธรรมเนียมการคัดเลือกผู้ได้รับพระราชทานนั้นจะมาจากการคัดเลือกตัวแทนจากสมาชิก โดยแต่ละสมาชิกจะเสนอชื่อจำนวนเก้าชื่อ โดยจะต้องมีผู้ที่ถือบรรดาศักดิ์เอิร์ลหรือสูงกว่าจำนวน 3 คน ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นบารอนหรือสูงกว่าจำนวน 3 คน และผู้ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นอัศวินหรือสูงกว่าจำนวน 3 คน โดยพระมหากษัตริย์จะทรงเลือกเสนอชื่อจำนวนเท่าใดก็ได้เพื่อที่จะแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งสิทธิ์ขาดในการเลือกผู้ที่จะพระราชทานให้ โดยมิจำเป็นจะต้องเลือกผู้ที่ได้รับเสียงมากที่สุดจากการเสนอชื่อ โดยการเสนอชื่อโดยสมาชิกนั้นกระทำครั้งสุดท้ายในปีค.ศ. 1860 และจากนั้นมาพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้แต่งตั้งโดยมิต้องมีการเสนอชื่อใดๆ โดยสมาชิกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยเกณฑ์การพระราชทานนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษรในปีค.ศ. 1953[4]: 198
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา พระมหากษัตริย์จะทรงเลือกผู้ได้รับพระราชทานโดยมีพระบรมราชวินิจฉัยจากคำเสนอแนะของคณะรัฐบาล ในปีค.ศ. 1946 โดยการตกลงระหว่างคลีเมนต์ แอตลี นายกรัฐมนตรี และวินสตัน เชอร์ชิล ผู้นำฝ่ายค้าน ได้เสนอให้พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งสิทธิ์ขาดแต่เพียงพระองค์เดียวในการเลือกผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอัศวินที่มีลำดับเกียรติสูงสุดอีกคราหนึ่ง[5] ซึ่งรวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทริสเติล และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญแพทริก (พ้นสมัยพระราชทาน) ดังนั้นพระมหากษัตริย์จะทรงเลือก Knights Companion และ Ladies Companion โดยพระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์เอง[6]
สมาชิกพิเศษ
[แก้]สมาชิกพิเศษแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ ซึ่งไม่ได้ถูกนับรวมใน 24 สำรับของสมาชิกสามัญ โดยผู้ที่ได้รับพระราชทานสมาชิกพิเศษนั้นหากเป็นสมาชิกในพระราชวงศ์ จะเรียกว่า "Royal Knights and Ladies of Garter" ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1786 ในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 3 เพื่อที่จะได้มีปริมาณเพียงพอสำหรับพระราชทานแก่พระราชโอรสของพระองค์ ต่อมาในปีค.ศ. 1805 ได้ทรงให้สร้างเพิ่มสำหรับพระราชทานให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์สายพระเจ้าจอร์จที่ 2 และต่อมาในปีค.ศ. 1831 ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สร้างเพิ่มสำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์สายพระเจ้าจอร์จที่ 1[7]
ภายหลังจากการเสด็จขึ้นครองราชย์ของจักพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียในปีค.ศ. 1813 สมาชิกพิเศษได้ถูกสร้างขึ้นเพิ่มเติมเพื่อพระราชทานให้แก่พระราชวงศ์ต่างประเทศ โดยออกพระนามผู้ที่ได้รับพระราชทานว่า "Stranger Knights and Ladies of the Garter"[8] โดยปกติแล้วการแต่งตั้งสมาชิกต่างประเทศนั้น หากเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอัศวินตระกูลที่มีศักดิ์ต่ำกว่าจะถือว่าได้รับบรรดาศักดิ์เป็นอัศวินกิตติมศักดิ์
ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พระมหากษัตริย์แห่งยุโรปทุกพระองค์จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็น "Stranger Knights and Ladies of the Garter" แต่อย่างไรก็ตามสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 แห่งกรีซ ก็ไม่ได้รับพระราชทานต่อจากพระราชบิดา เช่นกันกับสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม และสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปแห่งเบลเยียม เป็นพระมหากษัตริย์แห่งเบลเยี่ยมเพียงสองพระองค์ที่มิได้เป็นสมาชิกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ อนึ่ง ในเวลาเดียวกัน สมเด็จพระราชินีนาถยูเลียนาแห่งเนเธอร์แลนด์ และพระราชธิดา สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ซึ่งรับราชสมบัติต่อ โดยทั้งสองพระองค์ได้เป็นสมาชิกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ในขณะที่พระราชมารดายังทรงพระชนม์ เช่นเดียวกับกรณีของสมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน และสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 แห่งสเปน
- สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ทรงเป็นประมุขแห่งพระราชวงศ์ต่างประเทศพระองค์เดียวที่มิใช่พระราชวงศ์แห่งยุโรป และยังทรงเป็นสมาชิกพระองค์เดียวที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ที่ยังทรงพระชนม์ โดยทรงเป็นสมาชิกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพระองค์ที่ 4 ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้
- พระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ได้แก่ สุลต่านอับดุล เมจิดที่ 1 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน ในปีค.ศ. 1856
- พระมหากษัตริย์พระองค์แรก และพระองค์เดียวที่มาจากทวีปอเมริกาใต้ ได้แก่ จักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล ในปีค.ศ. 1871 โดยทรงเป็นสมาชิกของพระราชวงศ์บราแกนซา ซึ่งเป็นพระราชวงศ์หลักที่ปกครองโปรตุเกส และบราซิล
- สมาชิกที่มาจากทวีปเอเชียพระองค์แรกที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ได้แก่ นาเซอร์ อัล ดิน ชาห์ กาจาร์ พระมหากษัตริย์แห่งเปอร์เชีย ในปีค.ศ. 1873 และตามมาด้วยจักรพรรดิเมจิเป็นลำดับถัดไปในปีค.ศ. 1906
- สมาชิกที่มาจากทวีปแอฟริกาพระองค์แรกและพระองค์เดียว ได้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิเฮลี เซลาสซีที่ 1 แห่งเอธิโอเปียในปีค.ศ. 1954
- สมาชิกที่มาจากทวีปออสตราเลเชีย หรือโอเชียเนียคนแรก ได้แก่ ริชาร์ด เคซีย์ บารอนเคซีย์ นักการเมือง นักการทูต และผู้สำเร็จราชการเครือรัฐออสเตรเลียคนที่ 16 ในปีค.ศ. 1969
- ยังไม่มีการพระราชทานให้แก่บุคคลใดจากทวีปอเมริกาเหนือ
สมาชิกในปัจจุบัน
[แก้]สมาชิกพระราชวงศ์
[แก้]- สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 – 26 กรกฎาคม 1958
- เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนต์ – 9 ตุลาคม 1985
- เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี – 23 เมษายน 1994
- เจ้าชายริชาร์ด ดยุกแห่งกลอสเตอร์ – 23 เมษายน 1997
- เจ้าหญิงอเล็กซานดรา เลดีโอกิลวี – 23 เมษายน 2003
- เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก – 23 เมษายน 2006
- เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเอดินบะระ – 23 เมษายน 2006
- เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ – 23 เมษายน 2008
- สมเด็จพระราชินีคามิลลา – 1 มกราคม 2022
- บริจิตต์ ดัชเชสแห่งกลอสเตอร์ – 23 เมษายน 2024
สมาชิกพิเศษ
[แก้]- สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก – 16 พฤษภาคม 1979
- สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน – 25 พฤษภาคม 1983
- สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน – 17 ตุลาคม 1988
- เจ้าหญิงเบียทริกซ์เเห่งเนเธอร์แลนด์ – 28 มิถุนายน 1989
- สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเเห่งญี่ปุ่น – 26 พฤษภาคม 1998
- สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ – 31 พฤษภาคม 2001
- สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน – 12 กรกฎาคม 2017
- สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ – 23 ตุลาคม 2018
- สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะแห่งญี่ปุ่น – 25 มิถุนายน 2024
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Prince William to join Britain's most exclusive club as Knight of the Garter". Daily Mail. UK. 11 June 2008. สืบค้นเมื่อ 31 December 2009.
- ↑ Gay, Oonagh (20 March 2006). "Honours Standard Note: SN/PC/2832" (PDF). United Kingdom Parliament. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 16 October 2006. สืบค้นเมื่อ 7 November 2006.
- ↑ "College of St George – Windsor Castle – Orders of Chivalry". College of St George – Windsor Castle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2010. สืบค้นเมื่อ 4 มิถุนายน 2010.
- ↑ Begent, P.J.; Chesshyre, H. (1999). The Most Noble Order of the Garter: 650 Years. London: Spink and Son. ISBN 1-902040-20-1.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRH2
- ↑ "Select Committee on Public Administration Fifth Report". UK Parliament. 13 July 2004. สืบค้นเมื่อ 8 November 2006.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อne
- ↑ "Royal Insight: June 2004: Focus: The Order of the Garter". The Royal Household. June 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2007.