อีเอฟแอลคัพ 2018 นัดชิงชนะเลิศ
สนามกีฬาเวมบลีย์ จะเป็นเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศ | |||||||
รายการ | อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2017–18 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
| |||||||
วันที่ | 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 | ||||||
สนาม | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน | ||||||
ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำนัด | แว็งซ็อง กงปานี (แมนเชสเตอร์ซิตี) | ||||||
ผู้ตัดสิน | เคร็ก พอว์สัน (เซาท์ ยอร์คเชียร์)[1] | ||||||
ผู้ชม | 85,671 คน | ||||||
การแข่งขัน ฟุตบอลลีกคัพ 2018 นัดชิงชนะเลิศ หรือ อีเอฟแอลคัพ 2018 นัดชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี และ อาร์เซนอล ที่ สนามกีฬาเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน, ประเทศอังกฤษ.[2]
มันจะเป็นนัดชิงชนะเลิศลีกคัพครั้งแรกภายใต้ชื่อที่ใช้ในการแข่งขันที่มีชื่อว่า คาราบาว คัพ ตามชื่อจากผู้สนับสนุน เครื่องดื่มชูกำลังคาราบาว. ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี และ อาร์เซนอล. ทีมชนะเลิศจะได้ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสองของ ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018-19.[3]
เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ
[แก้]รอบ | คู่แข่งขัน | ผล |
---|---|---|
3 | เวสต์บรอมมิชอัลเบียน (A) | 2–1 |
4 | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ (H) | 0–0 (4–1 ลูกโทษ) |
รอบก่อนรองชนะเลิศ | เลสเตอร์ซิตี (A) | 1–1 (4–3 ลูกโทษ) |
รอบรองชนะเลิศ | บริสตอลซิตี (H) | 2–1 |
บริสตอลซิตี (A) | 3–2 | |
สัญลักษณ์: (H) = สนามเหย้า; (A) = สนามเยือน. |
แมนเชสเตอร์ซิตี
[แก้]แมนเชสเตอร์ซิตีในฐานะสโมสรจากพรีเมียร์ลีกได้มีส่วนร่วมใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 เริ่มต้นการแข่งขันในรอบที่สามโดยที่พวกเขาได้ถูกจับสลากออกไปเยือนทีมร่วมพรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมมิชอัลเบียน. ที่ เดอะฮอว์ทอนส์, พวกเขาเอาชนะไปได้ 2–1 ซึ่งมาจากการทำคนเดียวสองประตูจาก เลรอย ซาเน.[4] ในรอบที่สี่พวกเขาจับสลากพบกับทีมจาก ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ที่บ้านของพวกเขา เอติฮัด สเตเดียม, แมตช์นี้จบลงด้วย 0–0 หลังต่อเวลาพิเศษ แต่ แมนเชสเตอร์ซิตี สามารถผ่านเข้ารอบโดยการเอาชนะ การดวลลูกโทษ 4–1.[5] ในรอบก่อนรองชนะเลิศ, พวกเขาถูกจับสลากโดยออกไปเยือนทีมร่วมพรีเมียร์ลีกอย่าง เลสเตอร์ซิตี. ที่สนาม คิงเพาเวอร์สเตเดียม, แมตช์นี้จบลงที่ 1–1 หลังต่อเวลาพิเศษอย่างไรก็ตามแมนเชสเตอร์ซิตี ชนะการดวลลูกโทษ 4–3.[6] ในรอบรองชนะเลิศสองนัดพวกเขาถูกจับสลากพบกับทีมจากแชมเปียนชิป บริสตอลซิตี. ในเลกแรกที่เอติฮัด สเตเดียม, แมนเชสเตอร์ซิตี ชนะ 2–1 เนื่องจากประตูที่มาจาก เกฟิน เดอ เบรยเนอ และ เซร์คีโอ อะกูเอโร.[7] ในเลกที่สองที่ สนามกีฬาแอชตันเกต, แมนเชสเตอร์ซิตี สามารถก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศหลังจบผลการแข่งขันในนัดนี้ได้ที่ 3–2, ซึ่งรวมผลสองนัดด้วยสกอร์รวม 5–3.[8]
รอบ | คู่แข่งขัน | ผล |
---|---|---|
3 | ดอนคาสเตอร์โรเวอส์ (H) | 1–0 |
4 | นอริชซิตี (H) | 2–1 (หลังต่อเวลาพิเศษ) |
รอบก่อนรองชนะเลิศ | เวสต์แฮมยูไนเต็ด (H) | 1–0 |
รอบรองชนะเลิศ | เชลซี (A) | 0–0 |
เชลซี (H) | 2–1 | |
สัญลักษณ์: (H) = สนามเหย้า; (A) = สนามเยือน. |
อาร์เซนอล
[แก้]อาร์เซนอลในฐานะสโมสรจากพรีเมียร์ลีกได้มีส่วนร่วมใน ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2017–18 เริ่มต้นการแข่งขันในรอบที่สามโดยที่พวกเขาได้ถูกจับสลากเล่นในบ้านพบกับทีมจากฟุตบอลลีกวัน ดอนคาสเตอร์โรเวอส์. ที่สนามของพวกเขา เอมิเรตส์ สเตเดียม, อาร์เซนอล ชนะไปได้ 1-0 เนื่องมาจากหนึ่งประตูโดย ทีโอ วอลคอตต์.[9] ในรอบต่อไปพวกเขาได้ถูกจับสลากพบกับทีมจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป นอริชซิตี ที่บ้านของพวกเขา. อาร์เซนอลได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปหลังจากเอาชนะไปได้ 2-1 หลังช่วงต่อเวลาพิเศษกับสองประตูจาก เอ็ดดี เอ็นเคเตียห์.[10]
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ, อาร์เซนอลได้ถูกจับสลากมาพบกับทีมร่วมพรีเมียร์ลีกและทีมจากกรุงลอนดอน เวสต์แฮมยูไนเต็ด, โดยที่พวกเขาเอาชนะไปได้ 1-0 ที่เอมิเรตส์ สเตเดียมซึ่งทำได้โดยหนึ่งประตูจาก แดนนี เวลเบก.[11] ในรอบรองชนะเลิศ, พวกเขาถูกจับสลากพบกับทีมร่วมพรีเมียร์ลีกของพวกเขาและยังเป็นศึก ศึกคู่รักคู้แค้นร่วมเมืองลอนดอน เชลซี. หลังเกมเลกแรกด้วยผลเสมอ 0-0 ที่สนามเหย้าของเชลซี สแตมฟอร์ด บริดจ์,[12] อาร์เซนอลสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศหลังจากเก็บชัยชนะไปได้ 2-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม มาจากการทำเข้าประตูตัวเองหนึ่งลูกจากนักเตะของเชลซี อันโทนีโย รือดีเกอร์ และหนึ่งประตูจาก กรานิต จากา.[13] ส่งผลให้อาร์เซนอลกรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยที่ไม่ต้องออกจากกรุงลอนดอนซึ่งเป็นเกมของพวกเขาทั้งหมดจนกระทั่งรอบรองชนะเลิศได้เล่นในบ้าน, กับเลกของการออกไปเยือนของรอบรองชนะเลิศก็ได้ลงเล่นในกรุงลอนดอน.[14][15][10][16][12][17][18][19][20]
แมตช์
[แก้]รายละเอียด
[แก้]อาร์เซนอล
|
แมนเชสเตอร์ซิตี
|
|
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด
คณะผู้ตัดสิน
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[1]
|
กติกา
|
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 "Match Officials confirmed for Carabao Cup Final". EFL.com. English Football League. 13 February 2018. สืบค้นเมื่อ 24 February 2018.
- ↑ "Key Dates". English Football League. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม ค.ศ. 2018.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Preliminary Access List 2018/19". UEFA. 2016-08-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-22. สืบค้นเมื่อ 2018-01-23 – โดยทาง Kassiesa.
- ↑ "West Bromwich Albion 1-2 Manchester City". 20 กันยายน พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 – โดยทาง www.bbc.co.uk.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Man City 0-0 Wolves (aet, 4-1 on pens)". 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 – โดยทาง www.bbc.co.uk.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Leicester City 1-1 Manchester City (3-4 pens)". 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 – โดยทาง www.bbc.co.uk.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Manchester City 2-1 Bristol City". 25 มกราคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 – โดยทาง www.bbc.co.uk.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "FT: Bristol City 2-3 Man City — Guardiola reaches first final in England". 25 มกราคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2561 – โดยทาง www.bbc.co.uk.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Arsenal 1-0 Doncaster Rovers". BBC Sport. 2017-09-20. สืบค้นเมื่อ 2018-01-25.
- ↑ 10.0 10.1 Gerry Cox, The Emirates (2017-10-24). "Arsenal 2 Norwich 1 (AET): Eddie Nketiah becomes instant hit with brace to spare blushes in cup comeback". Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 2018-01-25.
- ↑ O'Keeffe, Greg (2017-12-19). "Arsenal 1-0 West Ham United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 2018-01-25.
- ↑ 12.0 12.1 "Chelsea 0-0 Arsenal". Goal.com. สืบค้นเมื่อ 2018-01-26.
- ↑ Emons, Michael. "Arsenal 2-1 Chelsea (2-1 agg)". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 2018-01-25.
- ↑ Kelly, Ryan (2017-04-21). "Carabao Cup: Draws, fixtures, results & guide to each round". Goal.com. สืบค้นเมื่อ 2018-01-25.
- ↑ Lawrence, Amy. "Nervous Arsenal scrape past Doncaster after Theo Walcott's neat finish". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 2018-01-27.
- ↑ "Arsenal 1 West Ham 0: Olivier Giroud injured as Danny Welbeck's goal wins drab Carabao Cup quarter-final". The Telegraph. 2017-12-19. สืบค้นเมื่อ 2018-01-27.
- ↑ Gholam, Simeon (2017-05-21). "Arsenal 2 - 1 Chelsea". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 2018-01-27.
- ↑ "Manchester City vs Arsenal". Sports Illustrated. สืบค้นเมื่อ 2018-01-30.
- ↑ "Arsenal scores and fixtures". ESPN. สืบค้นเมื่อ 2018-02-02.
- ↑ Ryan Kelly. "When is the Carabao Cup final? Date, venue and everything you need to know". Goal.com. สืบค้นเมื่อ 2018-02-04.